คนต้นเรื่องสมมุติว่าชื่อรุจ… รุจเป็นเด็กหนุ่มอารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส เป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียน ด้วยเหตุนี้ไม่แปลกที่จะมีเพื่อนมากแต่มีอยู่ 1 คนที่สนิทมากกว่าคนอื่น เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก บ้านห่างกันแค่ 2 ซอย เธอชื่อเกรน ทั้งสองคนนิสัยเหมือนกันมากสนุก เฮฮา ร่าเริง เรียนด้วยกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมต้น มาแยกกันเมื่อเข้าระดับอุดมศึกษา lynbet เกรนเป็นเด็กหัวดี เข้าเรียนคณะเภสัชฯส่วนรุจเลือกเรียนนิเทศฯ เพื่อนสนิทมีอันต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง
แม้บ้านห่างกันแค่ 2 ซอย แต่ทั้งคู่ไม่ได้เจอหน้ากันเลยเป็นเวลาหลายปี รุจเคยแวะไปที่บ้านหลายครั้งแต่ไม่เจอ
แม่บอกเกรนเรียนหนักมากหลังๆ ความสัมพันธ์ค่อยๆ ห่างกันไป (บ้านเกรนอยู่กัน 3 คน มีแม่, น้าและเกรน)
หลังเรียนจบมีงานการทำตามสมควร รุจเข้าทำงานในบริษัทโปรดักส์ชั่นเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ว่างๆ ก็ผ่านไปยังบ้านเกรนอีกหลายครั้ง แต่ผิดหวังไม่พบเพื่อนวัยเด็กสักครั้ง lynbet แม่เกรนบอกว่าลูกสาวซื้อคอนโด XX อยู่ใกล้ที่ทำงาน แรกๆ ก็กลับบ้านบ่อย แต่หลังๆ ไม่ค่อยได้กลับบ้านรู้สึกทำตัวแปลกๆ แวะมาเยี่ยมแป๊บเดียวก็รีบกลับ ถ้ามีเวลาว่างๆ ฝากดูน้องหน่อย รุจจึงขอเบอร์มาจากแม่เกรน คิดว่าว่างๆ จะโทรหาแต่ก็ลืมไปหลายวัน มานึกขึ้นได้ตอนคุยไลน์แล้วบังเอิญเห็นออโต้แอดเด้งขึ้นว่า Grain
เห็นชื่อก็คุ้นขึ้นมาทันที แต่ไม่เห็นหน้าเพราะรูปโปรไฟล์เป็นภาพดวงอาทิตย์ ก็แปลกใจเล็กน้อย
ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบสองทุ่ม จะโทรไปคงไม่เหมาะ เอาเป็นว่าไลน์ทักไปก่อนละกัน
Ruji : หวัดดี… เกรนใช่มั้ย? เรารุจนะ จำได้ป่ะ? แต่เพื่อนเก่าไม่ตอบและไม่แม้กระทั่งอ่าน.รุจไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเพื่อนคงเข้านอนแต่หัวค่ำ ก็นอนคิดอยู่ว่าไม่เจอตั้งหลายปีเดี๋ยวนี้จะเป็นยังไงบ้างหน๋อ แต่ก่อนก็ป๊อปปูล่าน่าดู
วาเลนไทน์ที เสื้อเต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์หัวใจไม่นับกุหลาบอีกเพียบ คิดไปมาเคลิ้มหลับมาสะดุ้งเอาตอนเช้าเมื่อมีเสียงข้อความเข้า… เป็นเกรนนั่นล่ะ
Grain : จำได้… แอดไลน์เราได้ยังไง?
ถ้าเป็นเพื่อนคนอื่นคงได้ด่าละ เสล่อทักมาตั้งแต่เช้า คนกำลังนอน แต่เมื่อเป็นสุภาพสตรี ดีกรีความเถื่อนต้องลดลง รุจอธิบายว่าได้ไลน์มาจากไหนทักทายกันอยู่สักครู่จึงแยกย้าย แต่ก่อนไปรุจเอ่ยปากชวนกินข้าว เกรนตอบว่าช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่ว่าง อาทิตย์หน้าค่อยว่ากันหลังจากนั้นรุจก็ไปทำงานตามปกติ เอาน่า ยังไงก็เพื่อนกัน อีกอย่างแม่เค้าก็ฝากฝังให้ดูหน่อย รุจส่งข้อความไปทันที
Ruji : รอที่ XX นะ มากินข้าวกันหน่อย
Grain : วันนี้ไม่ว่าง ไว้อาทิตย์หน้า
Ruji : อาทิตย์หน้าไม่ว่าง ไปต่างจังหวัดกับที่ออฟฟิศ
Ruji : วันนี้ล่ะ รีบมานะ บัย…
เกรนก็พิมพ์ต่อมาว่าไม่ว่าง ติดงาน แต่รุจไม่อ่าน ไม่ตอบ..
หลังเลิกงานรุจไปนั่งรอที่นัดหมาย จริงๆ แค่แกล้งเท่านั้น จะมาหรือไม่ไม่มายด์ แต่สักพักเกรนก็มาถึง…
เกรนในวันนี้ต่างจากวันวานลิบลับ ไม่ใช่ว่าดูสวยจนผิดหูผิดตา แต่ตรงข้ามเธอดูโทรมจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน
ผมที่เคยยาวเรียบกลับฟูหยัก โครงหน้าถึงจะดูว่าเป็นคนสวย แต่หมองคล้ำ ดวงตาซึมโหล ไหล่ห่อ
พูดง่ายๆ คือออเจ้าดูอมทุกข์สุดๆ อยู่ในระดับเกินปกติต่างกับวัยเด็กลิบลับ
รุจถามว่าไม่สบายรึเปล่า สาวเจ้าตอบว่าไม่ พอถามว่าเครียดเรื่องงาน? ก็ปฏิเสธ จนรุจคิดว่าเพื่อนคงไม่อยากตอบเรื่องภาพลักษณ์
และเลี่ยงไปคุยเรื่องอื่น พอคุยๆ ไปดูเหมือนเกรนจะยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น แต่อาการนั้นคงอยู่สั้นๆ พอถึงเวลาแยกย้าย
ความอมทุกข์ปรากฏขึ้นมาอีก รุจจึงตัดสินใจถามอีกรอบ
“เกรน แกมีปัญหาอะไรเปล่าวะ? ดูเหมือนมีอะไรในใจตลอด ขืนไม่บอก เราจะไปหาแม่แกถามให้รู้เรื่อง แม่ก็บ่นๆ อยู่ว่าแกแปลกๆ”
เกรนยืนนิ่งแววตาเศร้าชอบกล “ไม่มีอะไร” เกรนตอบทำท่าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ไม่…
เป็นอันแน่ว่ามีเรื่องแน่นอน ถึงขนาดทำให้ผู้หญิงร้องไห้ได้มีอยู่ไม่กี่เรื่อง
“เกรน… อย่าบอกนะว่าแกท้อง?” เกรนส่ายหน้า
“อกหัก? รักคุด?” ก็ยังส่ายหัว เดาไปอีกหลายเรื่องก็ไม่ถูก จนเกรนหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา อยู่ๆ ก็ขอตัวกลับก่อนเพราะทุ่มกว่าแล้ว
เธอเดินหายลับไปในกลุ่มคน รุจมองแผ่นหลังนั้นกำลังจะหายไป ภาพสาวน้อยแจ่มใสในวัยเด็กผุดแทนที่ เขาวิ่งตามไปจนทัน
“ป่ะ เดี๋ยวเราไปส่ง” เกรนเห็นก็พยายามปฏิเสธ แต่รุจบอกว่ามีอะไรซุกอยู่ที่คอนโดรึไงถึงไม่ให้ไป เกรนบอกไม่มีอะไรทั้งนั้น
แต่ไม่สะดวก รุจยิ้มๆ อย่างว่าง่ายตอบ “โอเชไว้คราวหน้าก็ได้” แต่ในใจคิดว่า… ฝันไปเหอะจะกลับง่ายๆ มีพิรุธขนาดนี้
เกรนแยกตัวไปอีกครั้ง รุจบ๊ายบาย จากนั้นแอบย่องตามไป ก็ผู้ใหญ่ฝากฝังมานินะ ขึ้นรถไฟตามไปติดๆ ก็แปลกใจ
นี่มันไม่ใช่ทางไปคอนโดที่แม่เกรนบอกนี่หว่า เอาล่ะสิ สงสัยงานนี้มีดราม่า
คอนโดนั้นอยู่แถว XX ย่านพลุกพล่านในเมืองกรุง เกรนตกใจมากเมื่อรุจแสดงตัวตอนกำลังเข้าอาคาร
รุจต้องอธิบายยกใหญ่ เหวี่ยงๆ ไปเรื่อย
“แกกับเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กนะเว้ย มีปัญหาอะไรอย่าบิดบังสิ ช่วยกันหาทางออก”
แต่ใบหน้าเย็นชา ดวงตาเหม่อลอยของเกรนทำให้รุจหวั่นๆ ซะงั้น เกรนตอบว่า
“ก็เพราะเป็นเพื่อนกันนะสิ ถึงไม่บอก กลับไปเหอะ… ขอร้อง”
รุจจึงบอกว่าแม่ของเกรนเป็นห่วง วานให้มาดู แล้วนี่อะไรทำไมต้องโกหกแม่ว่าอยู่แถว XX
บุคลิกของเกรนช่วงเย็นว่าแปลก ช่วงค่ำยิ่งแปลกว่า ดูเย็นชา เลื่อนลอย ไร้ชีวิตชีวา สายตาที่จ้องทำให้รุจรู้สึกแปลกๆ
“ไม่สนเว้ย ขอขึ้นไปดูหน่อย อย่างแกไม่ใช่สเปคเราหรอกไม่ต้องกลัว”
เกรนหันหลังเดินนำเข้าไปในตึก “ดูเสร็จก็รีบกลับละกัน”
ตลอดทางหลังตั้งแต่เดินผ่านล็อบบี้ไปจนเข้าลิฟต์ รุจรู้สึกใจหวิวๆ เหมือนว่าความร่าเริง ความมั่นใจ มันหายไปซะดื้อๆ
มองที่แขนทั้งสองข้าง ไรขนยิบๆ ลุกชู ใจอยากจะชวนเพื่อนคุยทำลายความเงียบ
แต่สมองดันเบลอคิดอะไรไม่ออกจนเสียงลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 15 กริ๊ง…
No Comment