ตอนนั้นเรารีบลงบรรไดกันมาที่ห้องนั่งเล่น แล้วนั่งรวมกลุ่มกัน รอเวลาให้ถึงเข้า ตอนนั้นประมาณ เที่ยงคืนกว่า ๆ ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรกัน ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่กลัวที่สุดในชีวิต ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ จู่ ๆ พวกเราก็ได้ยินเสียงสวดมนต์อีกรอบ รอบนี้ดังกว่ารอบก่อน ๆ ประตูกับหน้าต่าง ก็ค่อย ๆ เปิดออก เห็น เงาดำ ๆ หลายเงา เดินอยู่ รอบ ๆ บ้าน จังหวะนั้นนึกขึ้นได้ว่า lynbet พี่น้องแฝดอยู่บนห้องตั้งแต่กลับมา ยังไม่ได้ลงมาข้างล่างเลย ดิฉันจึงตะโกนเรืยก แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับใด ๆ เราจะปรึกษากัน ขึ้นไปตามกันทั้งหมดนี้แหละ พวกเราทุกคนขึ้นไปตาม ไปเคาะหน้าห้องกัน แต่พี่น้องฝาแฝดก็ไม่ยอมเปิดประตู ดิฉันหันไปมอง ห้องข้าง ๆ ห้องฉัน ห้องที่ล็อก กุญแจปรากฏว่า แม่กุญแจตกอยู่ที่พื้น ดิฉันก็สกิตบอก ลุงคนขับรถตู้ เมื่อลุงเห็นแบบนั้นจึงเดินเข้าไปหน้าห้อง แล้วเปิดประตู
พอเปิดประตูเสร็จ มันเป็นเหมือนห้องทำพิธีกรรมอะไรสักอย่าง มีกลิ่นเหม็นสาบ กลิ่นซากศพ ลอยออกมา เรามองไปเห็นแฝดพี่กำลังนั่งกรีดข้อมือตัวเองอยู่ที่มุมห้อง เราพากันเข้าไปห้าม ไปเอามือออก แต่เลือดไหลเยอะมากก และเราได้ยินเสียงคนเปิดหน้าต่างออก พอหันไปดูเห็นแฝดน้องนั่งอยู่ขอบหน้าต่าง lynbet และได้หันหน้ามาหาพวกเรา แฝดน้องยิ้มให้พวกเรา แต่คือ รอยยิ้มของแฝดน้อง ฉีกไปถึงใบหู ยิ้มเสร็จ น้องก็กระโดดไปข้างล่าง คือตอนนั้นพวกเราทำอะไรไม่ถูก มันเกิดขึ้นเร็วมาก พี่หัวหน้าได้บอกให้ลุงไปสตาร์ทรถ จะพาฝาแฝดไปโรงพยาบาล เราช่วยกันแบกแฝดพี่ลงมาข้างล่างเและเราก็ไปหาแฝดน้องกัน พอไปเห็นแฝดน้อง เราร้องไห้ก่อนเลย รู้ว่าน้องคงไม่รอดแล้วละ เธอตกลงมาหัวฝาดกับหินข้างล่าง แต่พวกเราก็แบกเธอขึ้นรถพาไปโรงพยาบาล
เราต้องเข้าตัวเมืองเพื่อไปโรงพยาบาล ขณะที่กำลังเดินทาง ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเอาเล็บมากรีดกระจกทั้ง 2 ข้าง ได้ยินเสียงไปตลอดทาง จนถึงโรงพยาบาล
No Comment