ลุงพุฒิให้ลุงยศเดินไปหยิบถุงผ้าในรถสักพักลุงยศก็เดินกลับมาพร้อมถุงผ้าสีขาว ลุงพุฒิล้วงเข้าไปหยิบสายสิญจน์แล้วเดินไปที่กอไผ่ LYN68 เอาปลายด้านหนึ่งผูกไว้กับลำไผ่แล้วเดิมวนอ้อมรอบกอไผ่กอนั้นหลายรอบจบแล้วก็มายืนด้านหน้าของเหล่านั้น พึมพำอยู่ครู่แล้วโยนสายสิญจน์ที่เหลือเข้าไป ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายแก่แล้วแดดร้อนจัด ตาก็เอาไม้ขีดมาให้ลุงพุฒิลุงพุฒิจุดไม้ขีดก้านแรก ไฟลุกพรึบขึ้นมาแล้วก็ดับพรึบทันทีราวกับมีคนเป่าลมใส่ ลุงพุฒิก็หยิบขึ้นมาอีกก้านก็เป็นอาการเดิมคือยังไม่ทันจะต่อเชื้อ ไฟก็ดับอีก ลุงพุฒิก็ส่ายหัวบ่นพึมพำ ลุงยศก็ถามว่า ผีเป่ารึเปล่าลุงพุฒิได้แต่ยิ้มๆ ก็บอกให้หาน้ำมันก๊าดมาให้หน่อย LYN68 ต้องรีบทำเวลาหน่อย ลุงยศก็ไปหยิบน้ำมันฉีดราดแถวโคนกอไผ่ลุงพุฒิบอกว่าพอเห็นของด้านในโดนเผาแล้ว ก็ฟันต้นไผ่ที่เหลือลงมาเผาด้วย เดี๋ยวไฟลามจะคุมยากแต่ต้องรอให้ของพวกนั้นโดนเผาก่อนนะอย่าลืม ลุงยักษ์กับลุงยอดก็เดินออกมาสมทบ…
ตากับหมอยาพร้อมลุงยศ เดินตามเข้าไปดูก่อน แม่จึงคว้ามือลุงยอดเดินตามเข้าไปด้วยแม่ได้ยินเสียงลุงพุฒิเตือนว่าอย่าเข้าไปใกล้มากสิ่งนั้น ไม่เพียงมีกลิ่นที่ชวนให้คลื่นเหียน มองเผินๆ เหมือนใยแมงมุม lynblue89 แต่พอเข้าไปใกล้ๆดูชัดๆก็เห็นว่าเป็นเมือกใสๆเหมือนกาวยาง ระโยงระยางห้อยซ้อนกันไปมา น้ำเหนียวๆยืดห้อยต่องแต่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ใต้เมือกเหนียวๆ มีเศษซากอะไรบางอย่างแม่บอกว่าตอนแรกนึกว่าเป็นเศษใบไผ่ที่กองทับกันจนแห้งเหี่ยว แต่พอมองดูดีๆ สิ่งนั้นมันคล้ายลำไส้หรืออวัยวะ(คนหรือสัตว์ก็ไม่รู้) ที่ถูกฉีกจนยุ่ย เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกองรวมกับเศษผ้าเก่าๆ แล้วก็ปอยผมเล็กๆ lynblue89 หลายปอย ดีที่อวัยวะพวกนั้นแห้งกรังไปหมดแล้วแม่ทนไม่ไหวเดินออกมาอาเจียน…
วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่บนดอยสูงนั้นวัฒนธรรมพวกเขาเคยสงบหยุดนิ่งมาหลายชั่วอายุคน ปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกยุคใหม่มากขึ้นวัยรุ่นแต่งตัวเกาหลี วัฒนธรรมจากภายนอกหลั่งไหลเข้าไปและรับเอาโดยคนรุ่นใหม่อย่างไม่ยากเย็นวิถีเก่าๆ จึงค่อยๆจืดจางลงไปตามกาลเวลา เว็บคาสิโนที่ดีที่สุด LYNBLUE89 แต่มีบางสิ่งยังคงอยู่ แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตามในอดีตเรือกสวนไร่นาของชาวเขา ส่วนใหญ่จะอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ลัดเลาะไปตามไหล่เขาไกลบ้างใกล้บ้างเนื่องจากพื้นที่ปลูกพืชที่ดีๆหายาก แต่ละครอบครัวจึงต้องเดินเข้าป่าลึกเพื่อถากถากจับจองกันเองตามกำลังเมื่อพืชผลเจริญงอกงาม ด้วยระยะทางจากบ้านมาก็ไกลโข จึงเกิดความระแวงว่าแขกไม่ได้รับเชิญจะมาเก็บเอาผลผลิตไปโดยวิสาสะจึงต้องมีพิธีกรรมบางอย่างเกิดขึ้น เริ่มจากตระเตรียม LYNBLUE89 สำรับกับข้าวของคาวของหวานและเหล้าสำหรับเซ่นไหว้จนครบแล้ว จึงเริ่มการสวดด้วยคาถาอาคมที่สืบทอดกันมาหลายรุ่นคาถานั้นเป็นคำสาปแช่งให้ผู้ที่เอาของจากไร่โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นให้มีอันเป็นไปหลังจากนั้นหัวหน้าครอบครัวก็จะสั่งคนในบ้านว่า ห้ามกินของในไร่เป็นอันขาดจนกว่าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยวแต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ ครอบครัวนี้มีลูกหลายคน และหลายวัยเด็กชายตัวเล็กๆ…
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงเดือนสิงหา 2556 ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า แม่และทางสำนักงานต้องไปจัดบู๊ทและเข้าประชุมในกิจกรรมวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ.2556 ระหว่างวันที่ 6-21 สิงหาคม 2556 ณ BITEC บางนา แต่ทางสำนักงานของแม่ถูกจัดให้เข้าร่วมงานวันที่ 13 สิงหาค่ะ ซึ่งพวกเราเลยเลือกเดินทางกันเช้า 12 สิงหาคม ประมาณ…
เมื่อลุงเห็นแบบนั้น ลุงได้จุดธูปที่โต๊ะพระเครื่อง แล้วนั่งพนมมือสวดมนต์ ลมได้พัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ลุงสวดมนต์ ไฟในบ้านลุงก็เกิดดับ เหลือแต่ไฟจากแสงเทียน เสียงโหย หวน ได้ดังผ่านมาตามลม พอลุงสวดมนต์จบได้เดินไปที่หน้าบ้านแล้วพูดว่า LYNBET พวกมิงอยู่ที่ไหน พวกมิงกลับไปเดี๊ยวนี้ อย่ามายุ่งทีของกู ” เสียงลม เสียงร้อง ได้เงียบหายไป…
หลังจากที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้จบลงพ่อแม่ของน้องแฝดได้มาหาดิฉันที่บ้าน ได้มาบอกดิฉันว่า ฝันถึงน้องฝาแฝด ในฝันแม่ของน้องแฝดได้เล่าให้ฟังว่า เห็นน้องแฝดทั้ง 2 คน อยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง พยายามขอความช่วยเหลือ น้องฝาแฝดพยายามหนีออกมา แต่ก็หนีออกมาไม่ได้ดิฉันคงคิดว่าน้องทั้ง 2 ยังอยู่ที่บ้านหลังนั้น ดิฉันจึงได้ตัดสินใจกลับไปที่ LYNBLUE89 บ้านหลังนั้นอีกครั้ง ก่อนที่จะกลับไปบ้านหลังนั้นอีก ฉันได้โทรศัพท์หาเจ้าของบ้านพัก แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้…
จากที่เงานั่งจองดิฉันอยู่ที่ระเบียง ดิฉันก็ไม่สนใจนั่งหลับตา ทำสมาธิต่อไป คือดิฉันหลับไปตอนไหนไม่รู้ ดิฉันมารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ดิฉันหันไปดูที่หน้าต่าง เห็นแสงพระอาทิตย์ จึงเปิดประตู ลงไปข้างล่าง เห็นแม่กับลุง ได้เตรียมของกัน มีดอกไม้ ธูปเทียน เสื้อผ้าชุดสีขาว และผ้าดิบ เรานั่งทานข้าวกัน แล้วลุงก็ถามว่าเมื่อคืนเอ็งคงเจอหนัก เอ็งรีบทำอะไรให้เสร็จแล้วไปหา พระป่าด้วยกัน เราช่วยกันแบกสิ่งของต่าง ๆ ขึ้นหลังรถ…
หลังจากสวดอภิธรรมเสร็จ ก็แยกย้ายกับพี่หัวหน้ากลับบ้าน ดิฉันต้องขับรถกลับบ้าน ในระวังที่ออกจากวัดนั้น หน้าวัดจะมีต้นไม้ใหญ่ ฉันได้มองขึ้นไปเห็นเงาคนดำ ๆ นั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้ แล้วมองมาที่รถฉัน ฉันพยายามไม่คิดอะไร ขับไปต่อ พอเลี้ยวรถออกจากวัดเสร็จ ฉันก็รีบขับกลับบ้าน ตอนนั้นฉันได้เปิดเพลงเสียงดัง พยามยามข่มใจ พยามร้องเพลง พยามยามทำทุกอย่างให้ไม่คิด พอเลี้ยวเข้าซอยบ้าน อยู่ดี ๆ เสียงเพลงที่เปิดอยู่นั้นได้เปลี่ยนเป็นเสียงสวดภาษาเขมร…
ทุกคนต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉันนั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ภาวนาให้ทั้ง 2 คนไม่เป็นอะไร ในที่สุดหมอก็ออกจากห้องมา เรารีบวิ่งไปถามหมอเกี่ยวกับอาการทั้ง 2 คน หมอบอกว่าเสียใจ ไม่สามารถช่วยชีวิตทั้ง 2 คนไว้ได้ ตอนที่หมอบอกมานั้น lynbet ดิฉันล้มทั้งยืน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับพวกเรา พี่หัวหน้าก็ได้เข้ามาปลอบ บอกน้องแฝดหมดกรรมแล้ว เค้าคงไปดีแล้ว ตอนนี้เรามาช่วยกันคิดวิธีบอกพ่อแม่ของน้องเค้าดีกว่าไหม …
ลุงยักษ์กับลุงยศหายไปตรงห้องเก็บของ กลับมาพร้อมมีดพร้าคนละเล่มก็สงสัยว่าลุงพุฒิให้เอามาทำไมลุงพุฒิเดินไปเดินมาตรงหลังบ้าน ปากก็พึมพัมๆเบาๆ บางทีก็เดินไปไกลถึงแปลงผัก แล้วก็วนกลับมาลุงยักษ์ถามว่าให้เอามีดมาทำไม แต่ลุงพุฒิยังไม่ตอบ LYN68 เดินไปหยุดตรงหน้ากอไผ่กอใหญ่ 2-3 กอหลังบ้านแม่ได้ยินลุงยศกระซิบกับลุงยักษ์ว่า กอที่แย้มเข้าไปคืนนั้นนี่หว่า **ใครจำไม่ได้ย้อนกลับไปอ่านช่วงนั้นได้นะครับ ที่ยายบอกให้ลุงยศอุ้มน้าแย้มออกมาแม่เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ที่ได้ยินลุงยศถามว่าแย้มเข้าไปทำไมในนั้น เมื่อตอนดึกวันก่อน ที่แท้มันคือในกอไผ่นั่นเอง**ลุงพุฒิยืนจ้องกอไผ่กอใหญ่สุดอยู่สักครู่ ก็บอกว่า“เอ๊า ลองฟันกอไผ่กอนี้ให้ดูหน่อย ข้างในมีอะไรรึเปล่า” LYN68…